The Mercury Ville @ Chidlom ต้อนรับซัมเมอร์ เอาใจสายกินกับกิจกรรม “Foodie Ville” พร้อมเดินหน้าตอกย้ำความเป็นศูนย์รวมร้านอร่อย สบายกระเป๋า สำหรับคนทำงานย่านชิดลม

ทรัสต์เพื่อการลงทุนในอสังหาริมทรัพย์และสิทธิการเช่าไทยแลนด์ ไพร์ม พร็อพเพอร์ตี้ (TPRIME) ผู้ถือสิทธิ์ศูนย์การค้า เดอะ เมอร์คิวรี่ วิลล์ แอท ชิดลม (The Mercury Ville @ Chidlom) โดยมีบริษัท เอสซีซีพี รีทส์ จำกัด เป็นผู้จัดการกองทรัสต์และผู้บริหารงานศูนย์การค้าฯ จัดงาน “FOODIE VILLE” ครั้งที่ 2 ภายใต้คอนเซ็ปต์ “อาหารรสเด็ด ขนมโดนใจ” ระหว่างวันที่ 13 มีนาคม 2566 – 24 มีนาคม 2566 ณ ลานกิจกรรม ชั้น 1 ศูนย์การค้า เดอะ เมอร์คิวรี่ วิลล์ แอท ชิดลม เดินหน้าผลักดันภาพลักษณ์ศูนย์การค้าฯ ให้เป็นศูนย์รวมร้านอาหารชั้นนำ พร้อมวางกลยุทธ์กระตุ้นการจับจ่ายใช้สอยผ่านกิจกรรมส่งเสริมการขายที่รวบรวมร้านอาหารสตรีทฟู้ด และร้านขนมหวานชื่อดัง ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์คนทำงานและผู้อยู่อาศัยย่านชิดลม และบริเวณใกล้เคียง

นายสุขวัฒก์ ภวสันต์ (กลาง) ผู้อำนวยการฝ่ายการตลาดและพัฒนาธุรกิจ บริษัท เอสซีซีพี รีทส์ จำกัด กล่าวถึงที่มาของการจัดงานครั้งนี้ว่า “หลังจากที่สถานการณ์ COVID-19 คลี่คลายลง พร้อมทั้งมาตรการการป้องกันการแพร่ระบาดที่ผ่อนคลายมากขึ้น เป็นปัจจัยบวกที่ส่งผลต่อผู้ประกอบการร้านค้าภายในศูนย์การค้าฯ และเป็นสัญญาณอันดีต่อธุรกิจรีเทล โดยในช่วงไตรมาสแรกของปี 2566 นี้ ทางศูนย์การค้าฯ ได้ประเดิมจัดแคมเปญเพื่อปลุกสีสันและคืนความมีชีวิตชีวาของย่านชิดลมที่หายไปเป็นเวลาหลายปี ด้วยกิจกรรมส่งเสริมการขายในรูปแบบการออกร้านที่รวมร้านอาหาร ร้านขนมชื่อดังจากทั่วกรุงเทพฯ มาไว้ที่ชิดลมที่เดียว เพื่อกระตุ้นการรับรู้ของกลุ่มคนวัยทำงานและผู้อยู่อาศัยบริเวณโดยรอบและเพื่อเป็นการตอกย้ำภาพจำของศูนย์การค้าฯ ที่เป็นจุดนัดพบของร้านอาหาร รวมถึงร้านกลุ่มบริการอื่นๆ ที่ตอบโจทย์ Urban Lifestyle ได้อย่างครบวงจร”

โดยภายในงาน “FOODIE VILLE” ครั้งที่ 2 นี้ มีร้านอาหารสตรีทฟู้ดและร้านขนมหวานชื่อดังตบเท้าเข้าร่วมกิจกรรมกว่า 30 ร้าน อาทิ ร้านอยู่ ดี มี สุข ข้าวเหนียวมะม่วง, ร้านวุ้นกบไต้หวัน, ร้าน Qool, ร้าน A Délie Tea, ร้านพี่เขียวข้าวเหนียวห่อ, ร้านบ้านเสือหิว, ร้าน SO DOUGH, ร้าน Oppa เกาหลี, ร้าน ING TEAHOUSE, ร้าน G.J.Lecker, ร้าน MIDNIGHT A COCOA, ร้าน Saku Saku, ร้าน Kanom, ร้าน MAORI, ร้าน King Croffle, ร้าน Mahouse café, ร้าน LaLune Macaron & Pastries, ร้าน Stupid Fries, ร้าน MAMA Station, ร้านขาหมูงามวงศ์วาน, ร้านทะเลดอง 20 บาท, ร้านกุยช่ายสะพานหัน, ร้านเฮงหอยทอดชาวเล และร้าน The ต้มยำแห้ง @ตำกะเตี๋ยว

ร้าน ‘บ้านเสือหิว’ สายเนื้อต้องร้องว้าวกับข้าวหน้าเนื้อสไตล์ฟิวชันที่ยกมาทั้งไทย ญี่ปุ่น ฝรั่ง และเมนูยอดฮิตที่ใครหลายคนต้องมาซ้ำอย่างข้าวผัดมันเนื้อออสเตรเลียท็อปไซด์วากิว ด้วยความหอมของน้ำมันเนื้อและรสชาติที่เข้มข้นทำให้สายเนื้อต้องเคลิ้มไปกับเมนูนี้

ร้าน ‘กุยช่ายสะพานหัน’ ตำนานกุยช่ายตอกไข่เจ้าดัง จากร้านรถเข็นย่านเยาวราชสู่ร้านเล็กๆ ที่สะพานหันที่ผู้คนคุ้นเคย อร่อยไม่ซ้ำใคร กุยช่ายกรอบๆ มาพร้อมกลิ่นหอมของไข่ ราดด้วยน้ำจิ้มสูตรเด็ด และยังมีกุยช่ายแป้งบางๆ ไส้จุกๆ อีกหลากหลายเมนูไม่ว่าจะเป็นแบบนึ่งไส้ต่างๆ และแบบทอด

ร้าน ‘ขาหมูงามวงศ์วาน’ ตุ๋นด้วยเครื่องพะโล้กว่า 12 ชนิดสูตรลับของทางร้าน หอม นุ่ม ละลายในปาก อร่อยจนลืมนับแคลฯ ทานคู่กับผักดอง กระเทียม และน้ำจิ้มสูตรลับ แซ่บไม่เกรงใจใคร

ร้าน ‘Kanom’ ทาร์ตไข่เจ้าดังขวัญใจชาวโซเชียล ด้วยสูตรพิเศษของร้าน Kanom ที่โดนใจคนทุกเพศทุกวัย พร้อมทั้งเบเกอรีอบสดใหม่ทุกวัน รวมไปถึงปาท่องโก๋ยักษ์สูตรฮ่องกงที่ได้รับความนิยมและมีชื่อเสียงมายาวนานกว่า 10 ปี

ร้าน ‘อยู่ ดี มี สุข ข้าวเหนียวมะม่วง’ ข้าวเหนียวมะม่วงเผาเจ้าแรก มะม่วงน้ำดอกไม้สีทองสุกกำลังดีทานคู่กับข้าวเหนียวมูนใบเตยจากข้าวเหนียวสันป่าตองที่เรียงเม็ดเรียวสวย ไม่เละ เพิ่มความหนุบหนับเคี้ยวอร่อย

ร้าน ‘MAMA Station’ มาม่า บะหมี่กึ่งสำเร็จรูปที่ใครๆ ต่างคุ้นเคยมาในเวอร์ชั่นอัพเกรด เครื่องแน่นล้นชาม รสชาติเข้มข้มร้อนแรงกว่าเดิมกับ 3 เมนูยอดฮิตอย่างมาม่าต้มยำทรงเครื่อง มาม่าหมูสับทรงเครื่อง มาม่าต้มยำทะเลน้ำข้น

ร้าน ‘MIDNIGHT A COCOA’ หากถามหาโก้โก้เข้มๆ เรียนเชิญได้ที่ร้าน Midnight A Cocoa ร้านโกโก้ร้านเล็กๆ ที่ครองใจคนได้เหนียวแน่นมานานกว่า 7 ปี มีระดับความเข้มให้เลือกถึง 3 ระดับคือ Goodnight, Midnight และ Darknight เพิ่มวิปครีมแบบตู้มๆ ฟินกว่าเดิมหลายเท่า

ร้าน ‘SO DOUGH’ โดนัทโฮมเมดเจ้าดัง คัดสรรวัตถุดิบมาอย่างดีทำให้เนื้อโดนัทมีความนุ่มนิ่ม คลุกกับผงไอซ์ซิงเนื้อละเอียดสูตรพิเศษของทางร้าน กินกับซอสดิปรสชาติต่างๆ เช่น ซอสนมข้นฮอกไกโด ซอสสตรอว์เบอร์รี ซอสช็อกโกแล็ต ซอสชาไทย ซอสมัทฉะ และซอสบราวชูก้า หรือจะกินโดนัทเพียวๆ ก็อร่อยฟินไม่ไหว

นางสาวชนาภา เหยือกเงิน (ซ้าย) ผู้ช่วยผู้จัดการฝ่ายการตลาดและพัฒนาธุรกิจ บริษัท เอสซีซีพี รีทส์ จำกัด กล่าวเพิ่มเติมว่า “การจัดงาน “FOODIE VILLE” ในครั้งนี้ได้จัดขึ้นเป็นครั้งที่ 2 สืบเนื่องจากผลตอบรับที่ดีจากการจัดงานครั้งก่อนในช่วงเดือนกันยายนปีที่ผ่านมา โดยทางศูนย์การค้าฯ ได้คัดสรรร้านอาหารและร้านขนมที่ได้รับความนิยม มีคุณภาพ และได้มาตรฐานตรงตามเกณฑ์ที่ทางเราตั้งไว้ ซึ่งทางเราพยายามที่จะหมุนเวียนสับเปลี่ยนร้านค้าหน้าใหม่ๆ ที่เข้าร่วมกิจกรรมในแต่ละรอบการจัดงานให้มีความหลากหลาย ไม่จำเจ และเพื่อเป็นการกระตุ้นภาพลักษณ์ของศูนย์การค้าฯ กับเป้าหมายความเป็นจุดนัดพบสำหรับการแฮงค์เอ้าท์ กินข้าว ดื่มกาแฟ อ่านหนังสือ และเป็น Street Food Destination ย่อมๆ ที่เปี่ยมไปด้วยคุณภาพและความเปลี่ยนแปลงอย่างต่อเนื่องใจกลางเมือง”

ทั้งนี้ทางศูนย์การค้า เดอะ เมอร์คิวรี่ วิลล์ แอท ชิดลม ได้มีการวางแผนงานการจัดงาน “FOODIE VILLE” ภายใต้คอนเซ็ปต์ “อาหารรสเด็ด ขนมโดนใจ” อีก 3 ครั้งในปีนี้ในช่วงเดือนมิถุนายน สิงหาคม และพฤศจิกายน 2566 โดยกิจกรรมภายในงานแต่ละรอบจะมีการปรับเปลี่ยนรูปแบบการนำเสนอ รวมถึงสิทธิพิเศษต่างๆ สำหรับลูกค้าที่เข้าร่วมงาน

นายสุขวัฒก์กล่าวปิดท้ายว่า “กิจกรรม “FOODIE VILLE” นับเป็นแคมเปญที่ช่วยสร้างความคึกคักและปลุกกำลังซื้อได้เป็นอย่างดี การออกแบบและการวางกลยุทธ์ทางการตลาดเพื่อให้ศูนย์การค้า เดอะ เมอร์คิวรี่ วิลล์ แอท ชิดลม มีภาพจำในวงกว้างมากขึ้นกับความเป็นศูนย์รวมร้านอาหารชั้นนำและบริการต่างๆ ที่ตอบโจทย์กลุ่มผู้อยู่อาศัยละแวกชิดลม และกลุ่มหนุ่มสาวออฟฟิศในทุกๆ ช่วงอายุ เปรียบเสมือนความท้าทายบนสังเวียนที่รายล้อมไปด้วยคู่ต่อสู้เจ้าใหญ่ในสมรภูมิรีเทล ทว่าตัวศูนย์การค้าฯ เองที่ตั้งอยู่บริเวณทำเลทอง CBD สี่แยกชิดลม มีทางเชื่อมต่อเข้าศูนย์การค้าฯ จาก BTS สถานีชิดลม และเป็นจุดยุทธศาสตร์สำคัญของอาคารสำนักงานเกรด A เป็นเครื่องการันตีถึงศักยภาพในการขยายฐานลูกค้าไปจนถึงการต่อยอดการพัฒนากิจกรรม สินค้า และบริการอื่นๆ ในอนาคตที่โดดเด่นและเกิดประโยชน์สูงสุดกับร้านค้าผู้เช่า รวมถึงผู้ที่มาใช้บริการศูนย์การค้าฯ”